คนเราเป็นปกติที่จะมองโลกในแง่ร้ายบ้างหรือจมอยู่กับความคิดเชิงลบที่ขุ่นมัวหนักหัวรบกวนสุขภาพจิตและบางครั้งการที่เราบอกตัวเองหรือคนอื่นว่า มองโลกในแง่บวกสิ มองบวกเข้าไว้ มองในแง่ดีสิ มันก็ไม่ได้ง่ายในทุกทุกสถานการณ์ใช่ไหมครับ แต่เราสามารถที่จะฝึกฝนตัวเราเองให้มีนิสัยเป็นคนที่เพิ่มพลังบวกให้กับตัวเองได้ ปรับนิสัยเล็กๆในการใช้ชีวิตประจําวันของเรานั่นเอง ในตอนนี้เราจึงขอนํา 5 วิธีที่จะปรับนิสัยเล็กๆของเราให้เป็นคนที่มีพลังบวกในทุกๆวัน ซึ่ง 5 วิธี เพิ่มพลังบวกให้ตัวเรา นี้เป็นวิธีที่เราสามารถเริ่มทําได้ทันที ทําได้ทุกคนต้องลองติดตามดูกันครับ
วิธีปรับนิสัยเล็กๆ เพิ่มพลังบวกให้ตัวเรา
1. ให้ตัวเองซึมซับสิ่งดีๆ
ในยุคสมัยนี้นอกจากผู้คนที่ร้ายล้อมรอบตัวเราแล้ว ยังมีสื่อต่างๆที่เข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตประจําวันของเราอีกด้วยใช่ไหมครับ เราใช้เวลาไปกับสื่อต่างๆมากมาย ไม่รู้จะกี่ชั่วโมง แต่เราก็ดันเลือกเสพสิ่งลบๆสิ่งที่สร้างความเครียดให้กับเรา สิ่งที่บั่นทอนสุขภาพจิตใจของเราทุกวัน เช่นเราไปคอยคอมเมนต์โต้ตอบคนที่เป็นนักเลงคีย์บอร์ด ปากไม่ดีพูดไม่มีสาระ ทัศนคติแย่แย่ที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเขาไปหมด ไปดูคอนเทนต์ที่เสียดสีคนอื่นบ้าง ดูหนังที่รุนแรงโหดร้ายไม่มีเหตุผล หรือตามข่าวคราวที่ไม่สร้างสรรค์ สิ่งเหล่านี้ครับเราล้วนเป็นคนตัดสินใจคลิกเข้าไปดูมัน เข้าไปฟังมัน เข้าไปเสพกันทั้งนั้น
ดังนั้นเราสามารถเลือกได้ว่าเราจะใช้เวลาในชีวิตประจําวันไปกับเรื่องพวกนี้หรือไม่ ทัศนคติภายในของเรานั้นสําคัญมากๆ หากเราอยากพัฒนาตนเองให้เป็นคนที่ดีกว่าเดิม อยากให้สิ่งดีๆเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา ลองเปลี่ยนนิสัยลองเลิกเอาตัวเองไปอยู่ในวงโคจรของเรื่องราวที่บั่นทอนทัศนคติของเรา เพราะว่าหากเรารับสิ่งใดเข้ามาในหัวของเรา เราก็มักจะส่งออกสิ่งเหล่านั้นออกไปด้วย
อยากมีพฤติกรรมดีดีลองเปลี่ยนมาสนใจสาระคอนเทนต์ดีๆ ฟังสิ่งที่เป็นประโยชน์ เข้ากลุ่มที่เขามีทัศนคติดีๆ กลุ่มที่ช่วยกันพัฒนาตนเอง เมื่อเราพาตัวเองไปอยู่ในสังคมหรือสภาพแวดล้อมแบบนี้ ตัวเราจะค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นคนที่ดีขึ้น เหมือนการที่เราไม่โอเคกับสังคมเพื่อนฝูงที่มีแต่พลังงานลบๆ เราก็เลือกกลุ่มเพื่อนที่ส่งเสริมเราพัฒนาตัวเราจะดีกว่า เหมือนที่เขาบอกกันว่าเราจะกลายเป็นเหมือนคนที่เราคบหาด้วย
ซึ่งในแต่ละวันเราอาจจะลองถามตัวเราเองว่า ใครคือคนที่เราใช้เวลาด้วยมากที่สุด เขาคนนั้นมีนิสัยอย่างไร มีนิสัยในแบบที่เราอยากจะเป็นหรือไม่ ถามว่าข้อมูลที่เราเสพที่เรากดเข้าไปดูทุกทุกวันที่เราใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับมัน มันมีอะไรบ้างและมันช่วยส่งเสริมตัวตนของเราให้ดีขึ้นหรือไม่ หากคําตอบคือไม่ คุณคงรู้นะครับว่าเราจะเลือกทําอย่างไร อยากเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นเริ่มที่การตัดสินใจให้ตัวเองซึมซับสิ่งดีๆเรื่องราวดีๆในแต่ละวัน เพราะตัวตนของเราจะเป็นในสิ่งที่เราทําซ้ําๆ
2. ทําอะไรให้ช้าลง มีสติ
ในบางครั้งบางทีสิ่งที่ทําให้เราฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อยคือการที่เราขาดสติ ทําอะไรใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวหรือพยายามคิด พูดและทําอะไรเร็วเกินไป การทําหลายอย่างรวดเร็วไม่มีสติ ไม่ทันให้เราได้หายใจหายคอ บางครั้งมันทําให้เรานั้นหลุดไปกับความคิดลบๆที่เกิดขึ้นได้มันทําให้เราอารมณ์เสียหงุดหงิดได้หรือเจอสิ่งลบๆเราก็จะตอบสนองออกไปโดยที่ไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่ได้คิดทบทวนให้ดีๆ
หากมันเกิดขึ้นแบบนั้นให้เราเบรกตัวเองแล้วบอกว่า ช้าลงหน่อยนะ ช้าลงหน่อย ทําอะไรให้มีสติ ไม่ต้องรีบร้อน ลองสูดหายใจเข้าออกลึกๆทางจมูกสัก 3 ครั้ง เพื่อตั้งสติกับสิ่งที่เรากําลังตอบสนองอยู่ตรงหน้า มันจะทําให้เราสงบลงและคิดทบทวนสิ่งต่างๆได้ ซึ่งมันก็ไม่ผิดนะที่เราจะมีอารมณ์ลบๆบ้าง แต่ถ้ามันเกิดขึ้นอย่าให้มันมาควบคุมเราได้ อย่าตกเป็นทาสของมัน ดึงมันให้ช้าลงหน่อย ไตร่ตรองถึงสิ่งที่ทําสิ่งที่เราคิดควบคุมมันให้ได้ ไม่อย่างนั้นอารมณ์ลบลบของเรา มันอาจจะควบคุมเราและส่งผลเสียที่บานปลายใหญ่หลวงได้
3. ฝึกขอบคุณสิ่งที่เรามีในทุกๆวัน
นักจิตวิทยาบอกว่าอย่าได้สบประมาทพลังของการขอบคุณ เพราะมันช่วยปรับทัศนคติภายในของเราได้ดีมากๆ การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารเกี่ยวกับบุคลิกภาพและจิตวิทยาทางสังคม ที่นักวิจัยให้ผู้เข้าร่วมการวิจัยได้เขียนบันทึกสองสามประโยคทุกสัปดาห์ โดยกลุ่มที่หนึ่งเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขารู้สึกขอบคุณในแต่ละวัน และกลุ่มที่สองเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขานั้นไม่พอใจเลย
หลังจากผ่านไป 10 สัปดาห์ นักวิจัยพบว่าผู้ที่จดบันทึกความสุข ความรู้สึกขอบคุณ มองโลกในด้านมุมที่ดีมากขึ้น ซึ่งวิธีนี้คุณสามารถทําเป็นประจําได้เขียนสิ่งที่เราอยากรู้สึกขอบคุณที่สุดหรือสิ่งที่ดีที่สุดออกมาสามอย่างในแต่ละวัน เขียนมันลงไปในสมุดบันทึก เขียนเป็นประโยคสั้นๆเรียงไปเป็นข้อๆเลย เช่น วันนี้แฟนเราทําอาหารให้กินนะ เฮ้ย! นานๆทีจะทําให้ , วันนี้เจ้านายมาแปลกกันเลี้ยงน้ําเราด้วย ปกติทําเนียนเราต้องจ่ายตลอด หรือสิ่งต่างๆที่จะช่วยให้เราได้โฟกัสสิ่งที่ดีๆในแต่ละวันบ้าง แทนที่เราจะไปหมกมุ่นกับสิ่งลบๆที่เกิดขึ้นอย่างเดียว ลองทําลองใช้วิธีนี้ทําก่อนนอนก็ได้แล้วอารมณ์ของเราจะดี มีความสุข หลับสบายกันเลยทีเดียว
4. อ่อนโยนดูแลตัวเองทุกวัน
เพราะการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งที่สําคัญเสมอ ยิ่งในวันที่เราเหนื่อยล้า วันที่เราท้อแท้สุดๆ เราต้องลองถอยออกมาและให้รางวัลกับตัวเองด้วยการดูแลตัวเองในที่นี้ไม่จําเป็นต้องหรู อย่างการอาบน้ําแร่แช่น้ํานม แค่ดูแลตัวเองด้วยวิธีที่เรียบง่ายและรู้สึกดีก็พอแล้ว เช่น การที่เราได้กินอาหารบ้านๆที่เราชอบ การให้ตัวเองดื่มน้ําได้ 8 แก้ว การพาตัวเองออกไปเดินได้หนึ่งหมื่นก้าว ได้ดูหนังดีๆ ดูซีรีส์สักเรื่องหนึ่ง หลังจากวันที่เราเหนื่อยล้ามามากแล้ว หรือการที่เราได้อ่านหนังสือสักเล่ม การโทรหาเพื่อนหาฝูง หรือแม้แต่กระทั่งการพูดปฏิเสธกับสิ่งที่เราไม่ต้องการ
สิ่งเหล่านี้คือการที่เรานั้นได้ใส่ใจความสุขของตัวเราเอง ความสุขเล็กๆที่ไม่ได้มาจากภายนอกแต่มาจากภายในของเรา ลองถามตัวเองในแต่ละวันดูว่าเราดูแลและอ่อนโยนกับตัวเราเองบ้างหรือไม่ การดูแลและอ่อนโยนกับตัวเราเองในวันที่เหนื่อยล้าวันที่หนักหนา วันที่ท้อแท้จะช่วยส่งเสริมพลังบวกให้กับตัวเราเองในแต่ละวันได้นั่นเอง
5. เริ่มต้นเช้าวันใหม่ให้ดีเสมอ
อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้ง เทสล่า และ สเปน เอ็กซ์ เคยกล่าวเอาไว้ในบทสัมภาษณ์ว่า หากคุณเริ่มต้นตอนเช้าด้วยสิ่งที่ดี วันนั้นจะเป็นวันที่ดี แต่ถ้าหากคุณเริ่มต้นวันนั้นด้วยสิ่งแย่ๆสิ่งลบๆ มันจะส่งผลกระทบให้วันกว่านั้นเป็นวันที่แย่ได้ ดังนั้นหากเราอยากให้อารมณ์ดีมีพลังบวกมีพลังใจดีๆในการทําเรื่องต่างๆ อย่าเพิ่งเอาสิ่งลบๆมาทําให้หนักหัว ทําให้จิตใจของเราสดชื่นแจ่มใส ชื่นบานกันก่อน เลือทําในสิ่งที่จะทําให้เรานั้นภาคภูมิใจในตัวเอง เช่น คนที่ตั้งใจจะออกกําลังกายในตอนเช้า ตื่นเช้ามาให้ทําสิ่งนั้นให้สําเร็จก่อน อยากกินอาหารเช้าดีๆก็อาจจะตระเตรียมวัตถุดิบเอาไว้ในตอนกลางคืนก่อนนอนเลย อยากทําอะไรให้ได้หลายหลายอย่างในตอนเช้า ก็ลองพาตัวเองให้เข้านอนแต่หัวค่ําและตื่นให้เช้าขึ้น
สิ่งเหล่านี้หากเราตั้งใจทํามันแต่เราก็ไม่ได้ทํา เพราะเรามัวแต่เร่งรีบกับชีวิตตอนเช้า เอา Facebook เอาไลน์ของคนนั้นคนนี้ที่ด่าเรามาดู ทําให้เรามีแต่อารมณ์ลบๆในตอนเช้า แบบนี้เราก็ไม่อยากทําอะไรแล้วใช่ไหม? และมันอาจจะส่งผลทําให้อารมณ์ของเรานั้นแย่ทั้งวันก็ได้ สิ่งเล็กๆยามเช้าเหล่านี้สําคัญกว่าที่เราคิด ตั้งใจจะทําอะไรในตอนเช้า วางแผนทํามันให้สําเร็จก่อน เช้ามาอย่าเพิ่งเอาสิ่งลบๆให้กับตัวเราเอง ลองสังเกตตัวเองดูว่าหากเช้าวันนั้นเราเริ่มต้นได้ดี เราทํามันได้ดีเราก็จะอารมณ์ดี มีพลังบวกทั้งวัน
นี่ก็เป็น 5 วิธีปรับนิสัยเล็กๆให้เราเป็นคนที่มีพลังบวกได้ในแต่ละวันที่ storymaker รวบรวมมาฝาก 5 วิธีที่เราสามารถเริ่มต้นกันได้ในวันนี้ อย่าสบประมาทพลังของนิสัยเล็กๆเหล่านี้มันล้วนส่งผลต่อจิตใจและทัศนคติการใช้ชีวิตของเรา
สนับสนุนโดย :: superslot777