Wednesday, 27 March 2024

9 ความลับของ สิ่งสำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน

07 Mar 2023
201

สิ่งสำคัญทางประวัติศาสตร์

เชื่อว่าหลายๆคนคงเรียนรู้เรื่องราวของ สิ่งสำคัญทางประวัติศาสตร์ มามากมาย แต่สิ่งที่เราได้เรียนที่โรงเรียนก็อาจเป็นสิ่งผิวเผินเพียงเท่านั้น เพราะจริงๆแล้วเรื่องราวบางสิ่ง บางอย่าง สถานที่บางสถานที่ ยังมีอะไรน่าสนใจ น่าค้นหายิ่งกว่านั้นอีกมาก วันนี้เรา storymaker จึงขอนำเสนอเรื่องราวความลับของสิ่งสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน มาลองดูกันว่าจะมีเรื่องอะไรกันบ้าง

ความลับของ สิ่งสำคัญทางประวัติศาสตร์

1. บนยอดหอไอเฟลมีอพาร์ทเมนท์อยู่

กุสตาฟ ไอเฟล ชายที่ออกแบบอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในฝรั่งเศสนี้ ได้สร้างและออกแบบอพาร์ทเมนท์ให้กับตัวเองบนหอไอเฟลชั้นบนสุด ซึ่งเขาใช้เป็นที่พักผ่อนและรับรองแขก ซึ่งโทมัสเอดิสันก็เคยเป็นแขกของเขาอีกด้วย

บนยอดหอไอเฟล

บนพาร์ตเมนต์แห่งนี้ประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน ห้องครัว ห้องอาบน้ำ และห้องรับแขก ปัจจุบันนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีหุ่นขี้ผึ้งของไอเฟลและเอดิสันอยู่บนนั้นอีกด้วย

เทพีเสรีภาพ

2. โซ่ที่ขาดบนเท้าของเทพีเสรีภาพ

หลายคนอาจจะรู้ว่าเทพีเสรีภาพเป็นสิ่งที่ชาวฝรั่งเศสมอบให้ชาวอเมริกันในวันครบรอบ 100 ปี ของการปฏิวัติอเมริกาเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งเสรีภาพของประชาธิปไตย แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าที่เท้าของเทพีเสรีภาพมีโซ่ที่ขาดอยู่ด้วย ซึ่งนั่นเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการหลุดพ้นจากการเป็นทาสจากสหราชอาณาจักรสำเร็จ

ภาพวาดโมนาลิซา

3. ภาพวาดโมนาลิซาของดาวินชีสองภาพ

ถึงแม้เราจะรู้ว่ามีศิลปินหลายคนพยายามวาดภาพโมนาลิซาเพื่อเลียนแบบมากมาย แต่มันยากที่จะเชื่อว่าภาพเหมือนโมนาลิซาอีกภาพ ที่ผู้ว่าคือลีโอนาร์โดดาวินชีเอง และมันไม่ใช่ตัวก๊อบปี้ด้วย โดยภาพนี้มีชื่อว่า ไอเซนเวิร์ม โมนาลิซา

ซึ่งโมนาลิซาในเวอร์ชั่นนี้ดูอ่อนกว่าภาพของจริงมาก บางคนก็คิดว่านี่อาจเป็นน้องสาวของโมนาลิซา แต่ทางมูลนิธิโมนาลิซาก็ได้ให้ข้อมูลว่าดาวิชีอาจวาดภาพโมนาลิซามาก่อนในสมัยที่เธอยังเป็นวัยรุ่น ซึ่งนั่นก็คือภาพนี้ ส่วนการวาดครั้งที่ 2 ของเขาก็คือภาพโมนาลิซาที่มีชื่อเสียงก้องโลกในปัจจุบันนั่นเอง

อนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์

4. แคปซูลกาลเวลาในอนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์

ในระหว่างการก่อสร้างอนุสาวรีย์แห่งนี้ สถาปนิก กัตซอน บอร์กลัม ต้องการสร้างห้องลับที่เอาไว้เก็บข้อมูลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของอเมริกา เพื่อให้คนรุ่นหลังมาพบ ดังนั้นเขาจึงสร้างห้องนี้ที่มีลักษณะเป็นถ้ำอยู่ด้านหลังของศีรษะอับราฮัมลินคอล์น แต่เขาได้เสียชีวิตเสียก่อนที่ห้องจะสร้างสำเร็จ

จนกระทั่ง 50 ปีต่อมา ในปี 1988 เอกสารสำคัญต่างๆและบันทึกของประธานาธิบดีบางส่วนถูกค้นพบภายในห้องที่ยังสร้างไม่เสร็จนี้ ซึ่งในที่สุดมันก็ได้ทำหน้าที่เป็นแคปซูลกาลเวลาไปเรียบร้อย

สฟิงซ์

5. ลักษณะดั้งเดิมของสฟิงซ์

สฟิงซ์รูปปั้นที่เรารู้จักกันดีว่าอยู่ที่มหาพีระมิดแห่งกีซ่า ถือเป็นรูปปั้นที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งแต่เดิมมันถูกตกแต่งด้วยสีสันที่สีสดใส ซึ่งยังมีหลักฐานบางส่วนถูกพบบริเวณใบหูข้างหนึ่งและนอกจากนั้นสฟิงซ์ยังมีจมูกที่โด่งและมีเขาที่ดูอลังการอีกด้วย ซึ่งนักวิชาการเชื่อว่าสฟิงซ์น่าจะถูกสร้างขึ้นเป็นหัวสิงโต แต่ใส่ใบหน้าของมนุษย์ลงไปในภายหลัง

หอเอนเมืองปิซา

6. การสร้างหอเอนเมืองปิซา

หนึ่งในหอคอยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ทุกคนรู้ว่ามันเอียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆแล้ว ใครเป็นคนสร้างหอระฆังแห่งนี้กันแน่ และอาจไม่รู้ว่ามันถูกสร้างมานานกว่า 843 ปี และใช้เวลาสร้างนานเกือบ 200 ปี แต่ด้วยพื้นดินในบริเวณนั้นเป็นดินที่ค่อนข้างนิ่มจึงทำให้หอเริ่มเอนมาเรื่อยๆ และมีการบูรณะกันอีกหลายครั้ง นอกจากนั้นกาลิเลโอยังเคยปล่อยลูกบอลสองลูก ลงมาจากหอยนี้เพื่อทดสอบทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของเขาด้วย

บิ๊กเบน

7. ชื่อของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในอังกฤษ

แน่นอนว่าหลายคนพูดชื่อบิ๊กเบนแต่คำว่าบิ๊กเบนไม่ใช่ชื่อเรียกสถานที่ หรือชื่อพระราชวัง หรือชื่อของหอระฆังที่มีนาฬิกาติดอยู่แต่อย่างใด แต่บิ๊กเบนคือชื่อของระฆังใบใหญ่ที่สุด ที่แขวนไว้บริเวณช่องลมเหนือหน้าปัดนาฬิกา ส่วนสถานที่แห่งนี้มีชื่อเรียกจริงๆว่าหอนาฬิกาพระราชวังเวสต์มินเตอร์ หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า หออลิซาเบธ ส่วนชื่อบิ๊กเบนยังไม่มีใครรู้ว่าจริงๆแล้วมันมาจากอะไรกันแน่ บางทฤษฎีก็เชื่อกันว่ามันเป็นชื่อเล่นของเบนจามินฮอลล์ เพราะที่ตัวระฆังมีชื่อของเขาจารึกอยู่ ส่วนบางทฤษฎีก็เชื่อว่ามันถูกตั้งหลังจากที่เบนจามิน เค้าต์ หนักวัยรุ่นเฮฟวี่เวทได้แชมป์

สะพานโกลเดนเกต

8. สีของสะพานโกลเดนเกต

สะพานโกลเดนเกตถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีคนถ่ายภาพมากที่สุดในโลก แต่เป็นเวลานานกว่าที่ทางกองทัพเรือสหรัฐฯจะเห็นด้วยกับการก่อสร้างสะพานนี้ และเมื่อได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างได้ ทางกองทัพเรือจึงอยากให้มันมีสีดำคาดเหลืองเพื่อที่จะสามารถมองเห็นในหมอกได้อย่างชัดเจน แต่สุดท้ายสถาปนิกเออร์ลิงมอโล้นได้โน้มน้าวทางกองทัพให้ทาเป็นสีส้มเข้มแทน ซึ่งสีที่เห็นอยู่นี้ ไม่ใช่แค่ทำให้เหมาะกับการมองเห็นในทุกสภาพอากาศแต่มันยังทำให้สะพานแห่งนี้ดูน่าสนใจมากขึ้นอีกด้วย

the scream

9. ท้องฟ้าในภาพวาด the scream

นี้ถือเป็นภาพหนึ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ที่ถูกวาดโดย เอ็ดวัด มุงก์ ด้วยเขาได้เขียนไว้ในบันทึกของเขาว่าทันใดนั้นท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ฉันหยุดเดินยืนพิงรั้วความรู้สึกเหนื่อยล้ามองเห็นเปลวเพลิงสีเลือดปกคลุมเหนืออ่าวที่มืดมิดและเมือง

ในปี 2003 นักดาราศาสตร์กลุ่มหนึ่งได้เสนอทฤษฎีที่มาของท้องฟ้าสีแดงนี้ว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เอ็ดเวิร์ดเจอกับการระเบิดของภูเขาไฟกากาตัวในปี 1883 ซึ่งทำให้เกิดเปลวเพลิงและฝุ่นควันจำนวนมาก พุ่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโลกและนั่นอาจเป็นที่มากของภาพวาดในตำนานภาพนี้ก็เป็นไปได้

สนับสนุนบทความดีๆโดย :: ufa365auto