Thursday, 18 April 2024

ภูเขาไฟฟูจิ ในหลายมิติที่คุณอาจไม่รู้

01 Dec 2022
228

ภูเขาไฟฟูจิ สําหรับชาวโลกแล้วถือได้ว่าเป็นภูเขาไฟที่งดงามที่สุด เป็นศิลปะธรรมชาติซึ่งเกิดจากการปะทุของภูเขาไฟหลายครั้งในอดีต แต่สําหรับชาวญี่ปุ่นแล้วที่นี่เป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่สักการะปวงเทพเป็นศูนย์รวมนักจาริกแสวงบุญและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่จิตรกรและกวี วันนี้ storymaker จะพาไปติดตามรายละเอียดใน ภูเขาไฟ Fuji ในหลายมิติที่คุณอาจไม่รู้

เรื่องราวของ ภูเขาไฟฟูจิ

1. ภูเขาไฟฟูจิ สถานที่บูชาอันศักดิ์สิทธิ์

ภูเขาไฟฟูจิสถานที่บูชาอันศักดิ์สิทธิ์มีกําเนิดมาจากไฟและอาจสิ้นสลายไปด้วยไฟเช่นกัน สถานที่อันสวยงามนี้เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ดึงดูดนักจาริกแสวงบุญและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่จิตรกรรวมถึงกวีมาแล้วหลายรุ่นต่อหลายรุ่น ภูเขาFujiเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัด Shizuoka และ Yamanashi มีความสูง 3776 เมตร ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 2030 เนื่องจากเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นที่สักการะของผู้คนและมีศิลปะชั้นสูง

ภูเขาไฟFujiเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นมาหลายศตวรรษแล้ว แต่แรกภูเขานี้เป็นที่เคารพบูชาของชนพื้นเมืองเผ่าไอนุที่ปัจจุบันนั้นยังมีอยู่ตามหมู่เกาะฮอกไกโด ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่อยู่เหนือสุด ชาวไอนุขนานนามภูเขานี้ตามชื่อเทพธิดา Fushi ผู้เป็นเทพธิดาแห่งอัคคี ชาวญี่ปุ่นยังคงนับถือภูเขาฟูจิต่อมาและเรียกชื่อตามที่ชาวไอนุตั้งไว้ บรรดาผู้นับถือศาสนาชินโตเชื่อว่าในธรรมชาติทุกรูปแบบจะมีเทพหรือกามิสถิตอยู่แต่เทพที่สถิตย์ในภูเขาจะศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ

ภูเขาฟูจิซึ่งสูงที่สุดและงดงามที่สุดในประเทศจึงได้รับความเคารพเป็นพิเศษ เพราะถือว่าเป็นสถานที่สถิตย์ของทวยเทพ เป็น เป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างความลึกลับของสวรรค์และความเป็นจริงของโลกมนุษย์

2. ยอดเขาฟูจิ ที่ตั้งแท่นบูชาปวงเทพ

สถานบูชาตามแบบชินโตที่อยู่ถัดจากยอดเขาลงมานั้นมีอายุย้อนหลังไปถึงสองพันปี เวลานั้นเป็นช่วงที่มีภูเขาไฟระเบิดอย่างหนักในประเทศญี่ปุ่น พระเจ้าจักรพรรดิจึงมีบัญชาให้สร้างที่บูชาขึ้นเพื่อให้เทพทั้งหลายคลายพิโรธ แม้กระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ ชาวญี่ปุ่นหลายคนยังนับถือว่าเป็นภารกิจทางศาสนาที่จะต้องไต่ขึ้นไปบนภูเขานี้ ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนในศตวรรษที่แล้วรายงานไว้ถึงบรรดาผู้เคร่งศาสนาจํานวนนับพัน เดินตามทางหนึ่งในหกสายขึ้นไปยังยอดภูเขาตามทางเดินมักมีรองเท้าเก่าเก่าทิ้งอยู่ เพราะรองเท้าเหล่านี้บอบบางมากจนต้องเปลี่ยนหลายคู่ในการเดินทาง 9 ชั่วโมง

ญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีภูเขาถึง 70% ของดินแดน ว่ากันว่าภูเขานั้นเป็นสถานที่ที่วิญญาณของผู้ตายลุกขึ้นมาเป็นเวลานาน และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่แยกออกจากโลกมนุษย์ ภูเขายังถูกใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมพระพุทธศาสนามาตั้งแต่สมัยโบราณ การรักษาระยะห่างจากโลกมนุษย์และปูทางไปสู่การตรัสรู้ ยังคงได้รับการสืบทอดและปฏิบัติที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ศาลเจ้า และวัดในท้องถิ่นทั่วประเทศญี่ปุ่น

3. ภูเขาไฟFujiสุดยอดแห่งสัญลักษณ์ความงามของประเทศญี่ปุ่น

โครงร่างอันสมมาตรของภูเขาFuji เป็นสุดยอดแห่งสัญลักษณ์ความงามของประเทศญี่ปุ่นมาช้านาน ในญี่ปุ่นภูเขานี้นั้น หาที่เปรียบไม่ได้ งดงามเสมอทุกฤดูกาลและทุกชั่วยาม งามแปลกตาไม่ว่าจะมองจากมุมไหน เล่ากันว่าหากได้ไต่ขึ้นไปยังยอดภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะในช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว มองยังต้นพลัมและต้นซากุระที่กําลังผลิดอกสะพรั่งอยู่บริเวณตีนเขา เราก็จะได้ชื่นชมความงามตระการตาเหนือกว่าประสบการณ์อื่นใด ซึ่งจะได้จากความยิ่งใหญ่ของภูเขาฟูจิ

4. จุดสร้างแรงบันดาลใจให้แก่กวีและจิตรกร

ท่ามกลางภูมิทัศน์ชนบทและกลางดวงใจของบรรดากวีและจิตรกรผู้ได้แรงบันดาลใจจากภูเขานี้มาตลอดเวลา 12 ศตวรรษ จนวันนี้พวกเขาฟูจิกลายเป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นภูเขานี้นั้นมีความสําคัญพิเศษในศาสนาชินโตอันเป็นศาสนาประจําชาติและมีความหมายต่อชาวพุทธ เชื่อว่าการเดินทางรอบภูเขานี้ ณ ระดับ 2500 เมตร คือการเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง จิตรกร คัตซูจิกะ ได้บันทึกภาพภูเขา Fuji ไว้หลายมุมมองบรรยากาศในยามต่างๆของภูเขา Fuji นามที่แฝงอยู่ดึงดูดทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ให้มาชมสถานที่นี้ กวีญี่ปุ่นชื่อบาโซลซึ่งมีชีวิตอยู่ระหว่างปี 1614-1694 มองเห็นความยิ่งใหญ่ของภูเขาฟูจิในทุกฤดูกาล ก็ได้พรรณนาไว้ว่า แม้ยามที่ภูเขาฟูจิถูกบดบังด้วยปลายฝนหรือม่านหมอกฤดูหนาว ในวันดังกล่าวนี้ก็ยังมีความปิติ ขณะที่ ลาฟคาดิโอเฮิร์น นักประพันธ์ชาวอเมริกันระหว่างปี 1850-1904 ผู้รักประเทศนี้มากจนขอเปลี่ยนสัญชาติเป็นญี่ปุ่น กล่าวถึงภูเขาลูกนี้ว่าเป็นภาพอันสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น ปัจจุบันนี้มีคนถึงสี่แสนคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ขึ้นไปบนภูเขา Fuji ทุกปี และส่วนมากขึ้นไประหว่างเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม เมื่อหิมะยอดเขาละลายแล้ว

5. จุดรวมชมวิว มองภาพรวมเบื้องล่าง

ภูเขาฟูจิมีสันเขาลากจากยอดเขาลงมาเป็น 45 องศา แล้วแผ่ออกไปก่อนถึงพื้นดิน ณ จุดนี้ ภูเขาฟูจิจะเป็นวงกลมเกือบสมบูรณ์มีเส้นรอบวงถึง 126 กิโลเมตร จนโค้งบริเวณลาดเขาด้านเหนือมีทะเลสาบ 5 แห่ง ช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมื่อไม้ผลเริ่มผลิดอกทั่วทั้งบริเวณจะมีสีสันสดสวยงดงามมาก ฤดูใบไม้ร่วงก็งดงามเช่นกัน ปลายยุคดึกดําบรรพ์รอบๆทะเลสาบทั้ง 5 จะโชติช่วงด้วยสีแดงเพลิงและเปลี่ยนเป็นสีน้ําตาลอ่อนแก่หลายต่อหลายสี ภาพอันงดงามที่สุดของภูเขา Fuji ก็ดูได้จากบรรดาทะเลสาบที่ติดต่อถึงกันเหล่านี้ ท้องน้ําสงบนิ่งในทะเลสาบจะสะท้อนให้เห็นเงาสัดส่วนอันสมมาตรของภูเขา ทะเลสาบเหล่านี้ก็เกิดจากภูเขาไฟ เช่นเดียวกับภูเขาFuji

6. Fuji ย้ําเตือนสติชาวญี่ปุ่น ความงามเกิดและดับได้

ความเชื่อในหมู่พุทธศาสนิกชนชาวญี่ปุ่น ภูเขานี้ผุดขึ้นมาในช่วงเวลาเพียงข้ามคืน เมื่อ 2816 ปีก่อนคริสตกาล จากแผ่นดินที่แหวกออกเป็นทะเลสาบอันเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่สุดของญี่ปุ่น ณ เวลานั้นภูเขาฟูจิเกิดจากแผ่นดินซึ่งถูกเลื่อนออกนั่นเอง ตํานานดังกล่าวไม่ใช่จะไร้พื้นฐาน หมู่เกาะญี่ปุ่นทั้งสิ้น ล้วนมีรอยเลื่อนของเปลือกโลก เทือกเขาและทะเลสาบทั้งหลายก็ตั้งอยู่ตามรอยเลื่อนเหล่านี้ เกาะฮอลชูนั้นตั้งคร่อมรอยเลื่อนสําคัญอันมีปล่องภูเขาไฟกระจุกอยู่กันถึง 25 ปล่อง ปล่องขนาดใหญ่ที่สุดคือภูเขาฟูจิซึ่งถือกําเนิดมาเมื่อหนึ่งหมื่นปีที่แล้ว ไม่ใช่สองพันสามร้อยปี ดังที่กล่าวไว้ในพุทธตํานาน

ที่ราบกว้างกว้างรอบภูเขาFujiเคยมีภูเขาไฟระเบิดอย่างหนักหน่วง ภูเขานี้ระเบิดเมื่อประมาณสามแสนปีก่อน ปล้นลาวาออกมาจากใจกลางโลก สารที่ทะลักออกมาจากกรดภูเขาไฟจํานวนมาก ช่วยปรับรูปทรงของภูเขาฟูจิจนเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน รวมทั้งทำให้มีชั้นลาวาแข็งสลับกับชั้นที่ผสมผสานไปด้วยเถ้าแร่เถ้าถ่านและลาวาหลอมละลายในปริมาณมหาศาล แผ่ไปตามลาดภูเขาอย่างทั่วถึง การระเบิดรุนแรงครั้งต่อๆมาพวกกลุ่มเถ้าแร่เถ้าถ่านและเม็ดลาวาสูงขึ้นไปในอากาศ ก่อนตกลงมาปกคลุมลาดเขา

ตามที่บันทึกไว้ ภูเขา Fuji ระเบิดครั้งแรกเมื่อปี 800 และครั้งหลังสุดปัจจุบันภูเขาFujiยังไม่ดับเพียงแต่สงบอยู่เท่านั้น เมื่อปี1707 ในครั้งนั้น นครเอโดะหรือกรุงโตเกียวในปัจจุบันซึ่งอยู่ห่างจากภูเขาออกไปถึงหนึ่งร้อยกิโลเมตร ปกคลุมไปด้วยเถ้าแร่และเถ้าถ่านเป็นชั้นหนา ความสําคัญพิเศษของภูเขา Fuji ในสํานึกของชาวญี่ปุ่นและจินตนาการเกี่ยวกับภูเขานี้ คงจะเกิดจากการตระหนักว่าความงามนี้อาจไม่ยืนยงตามที่เชื่อกันมา ภูเขามีอุบัติขึ้นในช่วงเวลาเพียงข้ามคืน ดังนั้นในวันใดวันหนึ่งก็อาจจะสิ้นสลายเป็นลูกไฟไปในพริบตาได้เช่นกัน

สนับสนุนบทความโดย :: jokerslotz